ปริศนาเรือแมรี่ เซเลสต์ เรือกลืนชีวิต

Mary-Celeste-news-site

เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อเรือใบของพ่อค้าชาวอเมริกันลอยเคว้ง อย่างไรจุดหมายอยู่บนท้องมหาสมุทรแอตแลนติก “แมรี่ เซเลสต์” ที่ออกเดินทางจากเกาะ “Azores” เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม ปี 1872 โดยผู้ที่ได้พบเรือลำนี้คือเรือของชาวแคนาเดียนที่พบมันอยู่ในสภาพที่พังยับเยินแต่ก็ยังแข็งแรงพอที่จะแล่นต่อไปได้ มีบางส่วนของเรือหายไปโดยเฉพาะเรือชูชีพ นอกจากนี้บันทึกของเรือย้อนกลับไปได้ 10 วันก่อนหน้านี้ โดยออกจากท่าเรือ New York เดินทางไปยัง Genoa เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน สินค้าส่วนใหญ่บนเรือคือแอลกอฮอล์ที่ยังมีอยู่ครบถ้วน ข้าวของเครื่องใช้ลูกเรือก็ยังอยู่ในสภาพปกติ

เรือแมรรี่ เชเลสต์ ถูกต่อขึ้นในท่าเรือบนเกาะ “Spencer” ถูกปล่อยลงเมื่อปี 1861 แต่เธอถูกส่งต่อให้กับชาวอเมริกันในปี 1868 เมื่อเธอได้รับชื่อใหม่ของเธอก็ล่องเรือโดยปกติจนกระทั่งการเดินทางในปี 1872 ของเธอ ในการเก็บกู้ซากเรือนั้นทางเจ้าหน้าที่ของศาลก็พิจารณาความเป็นไปได้ออกมามากมาย ได้แก่ การเล่นตลกของใครซักคน, การก่อกบฏโดยลูกเรือ, ถูกปล้นโดยเรือ Dei Gratia, การสมคบคิดกันเพื่อหลอกเอาเงินประกันและความเป็นไปได้อื่นอีกเพียบ

news-Mary-Celeste-site

เนื่องจากปริศนาของแมรี่ เชเลสต์ยังไม่คลี่คลาย ทำให้เกินความสนใจต่อผู้คนมากมายที่ต้องการรู้ความจริงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่นานเรื่องก็ถูกเล่าต่อกันไปเรื่อยจนบางครั้งก็ผิดเพี้ยนไปจากที่เป็นจริง จนบ่อยครั้งที่มีผู้คนเล่ากันว่ามันเป็นอาถรรพ์ของผีอะไรซักอย่าง บางส่วนก็ตั้งข้อสันนิฐานกันไปต่างๆ นาๆ เช่น ลูกเรืออาจได้รับผลกระทบจากไอระเหยของแอลกอฮอล์ที่อาจรั่วออกมาจากคลังเก็บสินค้า, เกิดแผ่นดินไหวใต้น้ำ หรือแม้แต่ถูกเล่นงานโดยปลาหมึกยักษ์ก็มี

เกิดอะไรขึ้นหลังจากเกิดเหตุการณ์สยองขวัญ

หลังจากที่การพิจารณาคดีได้จบลงอย่างเป็นทางการแล้วนั้น เรือแมรี่ก็ยังคงแล่นอยู่ในท้องทะเลภายใต้การครอบครองโดยเจ้าของคนใหม่ จนกระทั่งในปี 1885 กัปตันได้นำเรือไปชนไม่ระมัดระวังที่ชายฝั่งเฮติ คาดว่าเป็นการทำเพื่อเอาเงินประกันภัย เรื่องราวของเธอที่เคยถูกทอดทิ้งในปี 1872 ได้ถูกนำมาเล่าขานอีกครั้ง แถมยังมีนำไปสร้างเป็นละคร สารคดี นวนิยาย รวมถึงภาพยนตร์ ในฐานะเรือปริศนาที่ยังไม่มีคำตอบในปัจจุบัน อย่างในเรื่อง “The Mystery of the Mary Celeste” เป็นภาพยนตร์ที่เข้าฉายในปี เป็นการถ่ายทอดเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับเรือแม่รี่ในแบบฉบับภาพยนตร์ที่ช่วยอธิบายถึงการหายตัวไปของลูกเรือและผู้โดยสาร เวอร์ชันที่วางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาภายใต้ชื่อ Phantom Ship นั้นจะสั้นกว่าต้นฉบับประมาณ 18 นาที