เชื่อว่าหลายคนต้องเคยดูละคร “ปอบปีฟ้า” กันมาบ้าง แล้วเกิดความสงสัยว่าเรื่องราวต้นกำเนิดมันเป็นอย่างไร ผีปอบเป็นเรื่องราวสยองขวัญที่คนไทยคุ้นเคยกันดี กล่าวว่ามันเกิดจากผู้ที่มีวิชาอาคม ซึ่งวันนี้เราจะพาไปย้อนประวัติดูเรื่องราวความเฮี้ยนของผีปอบตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ว่ามีต้นกำเนิดมาจากไหน เริ่มได้อย่างไร และปัจจุบันนี้ยังมีคนพบเห็นอยู่หรือไม่
เรื่องมันเกิดขึ้นอยู่ว่าในสมัยก่อนเป็นยุครุ่งเรืองของผู้มีอาคม ในแต่ละหมู่บ้านจะมีผู้มีวิชาที่แก่กล้า บางคนก็ใช้วิชาเพื่อช่วยเหลือผู้คน บ้างก็ใช้เพื่อทำร้ายผู้อื่นด้วยมนต์ดำซึ่งเป็นวิชาเดียรัจฉาน มันเป็นวิชาที่ทรงพลังและใช้โดยผู้ที่มีกำลังแก่กล้า และต้องมีจิตใจที่เข้มแข็ง หากใครที่จิตไม่แข็งพอก็จะโดนของกลับเข้าตัวเอง ถ้าไม่ตายก็กลายเป็นสิ่งที่น่าหวาดกลัว หรือก็คือ “ผีปอบ” นั่นเอง
ไม่น่าแปลกใจที่ว่าทำไมผีปอบจึงออกอาระวาด นั่นเพราะว่าผู้มีอาคมต่างคิดว่าตัวเองนั้นแก่กล้าพอจะใช้วิชาเดียรัจฉาน สุดท้ายก็ต้องจบลงด้วยความสยดสยองในที่สุด เพราะส่วนใหญ่วิชาเหล่านี้เป็นวิชาที่ทำร้ายผู้อื่น การทำแบบนี้หลายครั้งถือเป็นการ “ผิดครู” ซึ่งเป็นข้อห้ามเพื่อไม่ให้ผู้มีวิชาอาคมถูกมนต์ดึงเข้าสู่ด้านมืด
รู้ไหมว่าผีปอบมีอยู่หลายชนิด
หลายคนเวลาพูดถึงผีปอบก็มักจะไม่ได้ระบุหรือไม่รู้ว่ามันเป็นประเภทใด ถ้าเป็น “ผีปอบ” เป็นประเภททั่วไปที่มักจะเป็นผู้ที่มีปอบสิงอยู่ในร่างกายตัวเอง เมื่อใดก็ตามที่คนนั้นเสียชีวิต วิญญาณปอบที่สิงอยู่ก็จะตายตามเจ้าของร่างไปพร้อมกัน “ปอบเชื้อ” เป็นเหมือนโรคติดต่อที่สามารถถ่ายทอดไปยังรุ่นลูกรุ่นหลาน วนเวียนไปเรื่อยไม่รู้จบ “ปอบแลกหน้า” เป็นปอบที่ชอบใส่ร้ายผู้คนไปทั่ว เวลาที่ถูกจับได้ก็มักจะหลอกชาวบ้านว่าคนอื่นที่ไม่รู้เรื่องเป็นปอบ “ปอบกึกกัก” เป็นปอบที่จะไม่พูดอะไรกับใคร แต่จะเปิดปากก็ต่อเมื่อมีหมอผีมาจัดการ
คนที่ถูกปอบเข้าจะมีอาการแตกต่างกัน โดยทั่วไปแล้วจะมีอาการที่ก้าวร้าว หรือไม่ก็นอนป่วยหนักโดยไม่มีสาเหตุ โดยทุกคนจะมีความโหยหาที่จะกินอาหารดิบ เวลากินจะแสดงถึงความตะกละตะกลามไม่เหมือนผู้เหมือนคน ราวกับสัตว์ป่าที่หิวโหย ส่วนใหญ่แล้วปอบเหล่านี้สามารถูกขับไล่โดยหมอผีที่มีวิชาอาคมแก่กล้าได้ไม่ยาก แต่บางครั้งก็เป็นเรื่องยากที่จะขับไล่สุดท้ายคือการจบชีวิตของผู้ที่ถูกสิงสู่